- โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า ด้วยแรงหนุนจากการซื้อของธนาคารกลางและการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- ราคาทองคำคาดว่าจะได้แรงหนุนจากนโยบายการเงินของเฟดและการบริหารงานของทรัมป์
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์คาดว่าจะซื้อขายอยู่ในช่วง 70-85 ดอลลาร์/บาร์เรล
โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อของธนาคารกลางและนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โกลด์แมน แซคส์ยกให้ทองคำเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่น่าลงทุนที่สุดสำหรับปี 2568 และเชื่อว่าราคาทองจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ในรายงานระบุว่า การลงทุนในทองคำคือทางเลือกที่ควรพิจารณา พร้อมยืนยันเป้าหมายราคาทองคำที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในธันวาคม 2568 โดยปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการคาดการณ์นี้คือความต้องการซื้อทองคำจากธนาคารกลางที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังมีแนวโน้มที่จะดึงเงินเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ
ปีนี้ราคาทองคำแข็งแกร่งและทำสถิติสูงสุดหลายครั้ง แม้จะชะลอตัวลงบ้างหลังจากชัยชนะของทรัมป์ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น อย่างไรก็ตาม โกลด์แมน แซคส์มองว่า นโยบายของทรัมป์อาจสนับสนุนราคาทองคำได้ด้วย
นอกจากทองคำแล้ว โกลด์แมน แซคส์ ยังได้คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ว่าจะอยู่ในช่วง 70-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีหน้า ถึงแม้ในระยะใกล้ ราคาน้ำมันเบรนท์อาจเผชิญความเสี่ยงหากทรัมป์ระงับการส่งออกน้ำมันจากอิหร่าน