สกุลเงิน USD ซื้อขายอ่อนตัวลงเล็กน้อยเนื่องจากยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ออกมาอย่างน่าผิดหวัง ด้านผู้พูดของเฟดเองก็ลังเลที่จะกําหนดวันที่เจาะจงในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไป คริสโตเฟอร์ หว่อง (Christopher Wong) นักยุทธศาสตร์ตลาดฟอเร็กซ์ของ OCBC ตั้งข้อสังเกตดังนี้
"ยอดค้าปลีกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.1% MoM ในเดือนพฤษภาคม หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนเมษายน ซึ่งต่ำกว่าฉันทามติคาดการณ์การเติบโตที่ 0.3% ยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมรถยนต์ น้ำมันเบนซิน และวัสดุก่อสร้าง เพิ่มขึ้น 0.4% MoM โดยต่ำกว่าฉันทามติคาดการณ์ที่ 0.5% MoM เล็กน้อย สัปดาห์นี้โฟกัสตลาดจะไปที่จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (พฤ.) และดัชนี PMI เบื้องต้น (ศ.) ข้อมูลที่อ่อนแอลงน่าจะกดดันต่อสกุลเงิน USD"
"ในกลุ่มของ Fedspeaks สมาชิกที่ชื่อมูซาเล็มยอมรับว่า ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แท้จริงและยอดค้าปลีกที่ระบุนั้นส่วนใหญ่นั้นน้อยกว่าที่ควร เขายังกล่าวด้วยว่าเขาจะต้องสังเกตถึงช่วงเวลาของอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเข้าทาง อุปสงค์ที่ทรงตัวอย่างเหมาะสม และการขยายตัวของอุปทาน ก่อนที่จะมั่นใจว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้นจะเหมาะสม ทางด้านนายคอลลินส์กล่าวว่า เฟดควรอดทนรอในขณะที่จะพิจารณาว่าเมื่อใดควรลดอัตราดอกเบี้ย"
DXY ล่าสุดวิ่งอยู่ที่ 104.84 โมเมนตัมขาขึ้นเล็กน้อยยังแข็งแกร่งในกราฟรายวัน ในขณะที่ดัชนี RSI อยู่ในแดนกลาง มีแนวรับอยู่ที่ 104.80 (61.8% fibo การย้อนกลับของจุดสูงสุดในเดือนตุลาคมถึงระดับต่ำสุด ในปี 2024), 104 (fibo 50%) มีแนวต้านอยู่ที่ 105.50, 105.75 (FIBO 76.4%) การเหวี่ยงไปมามีแนวโน้มว่าจะอยู่ในกรอบ 104.80 – 105.50 หากไม่มีตัวเร่งปฏิกิริยาหลักอื่น ๆ"