- การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 สูงกว่าเป้าหมายเกือบ 4 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของภาษีมูลค่าเพิ่ม
- การขยายฐานภาษีในธุรกิจออนไลน์เป็นเป้าหมายหลักในปีนี้ เน้นย้ำกลุ่มอาชีพอิสระและอินฟูลเอนเซอร์ให้ยื่นแบบแสดงภาษี
- กรณีกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาต่ออายุหลังหมดอายุภาษีในปี 2567
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.-ธ.ค.67) สามารถเก็บได้รวม 4.7 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเกือบ 4 พันล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของภาษีมูลค่าเพิ่มถึง 12% เนื่องจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น ส่งผลให้การบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น
เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในปีนี้อยู่ที่ 2.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังมุ่งเน้นขยายฐานภาษีในกลุ่มธุรกิจออนไลน์ รวมถึงกลุ่มอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้าแม่ขาย และอินฟูลเอนเซอร์ เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กรมฯ จึงเชิญชวนให้ผู้มีรายได้เหล่านี้เข้ามายื่นแบบแสดงภาษี เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับตามกฎหมาย
ในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2568 อาจมีความท้าทายจากการยื่นแบบของนิติบุคคลรอบครึ่งปี ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่มั่นคง นอกจากนี้ กรณีกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) ที่หมดอายุภาษีเมื่อปี 2567 ยังอยู่ในการพิจารณาว่าจะต่ออายุหรือไม่ เพื่อสนับสนุนการออมในระยะยาว
ด้วยความตั้งใจของกรมสรรพากรในการขยายฐานภาษีไปยังกลุ่มต่างๆ และการปรับปรุงเศรษฐกิจที่ดียิ่งขึ้น คาดว่าการจัดเก็บรายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้