- สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทวีความรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลกอย่างมาก โดยการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจนำสู่ความเสี่ยงวิกฤติเศรษฐกิจระดับแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008
- การปรับนโยบายของรัฐบาลไทยรวมถึงการเพิ่มงบประมาณการลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์สามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังได้ หากไม่มีปัญหาด้านเสถียรภาพทางการเมือง
- การสร้างระบบสวัสดิการที่ครอบคลุมคนทุกช่วงวัยเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตประชาชนและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในครึ่งปีหลังอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หากทั้งสองประเทศใช้กำแพงภาษีนำเข้าตอบโต้กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งอาจทำให้การผลิตและการค้าโลกแยกส่วนออกจากกันอย่างมาก การคาดการณ์จากไอเอ็มเอฟบ่งชี้ว่าจีดีพีโลกอาจหายไปไม่ต่ำกว่า 7% ซึ่งเทียบเท่ากับจีดีพีของฝรั่งเศสและเยอรมันรวมกัน ในกรณีที่แย่ที่สุด อาจเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่มีความร้ายแรงเทียบเท่ากับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์เมื่อปี 2008
นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ระบุว่านโยบายของรัฐบาลทรัมป์ที่มุ่งลดภาษีและผ่อนคลายกฎระเบียบจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว แต่ก็เพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อและความเสี่ยงจากฟองสบู่ตลาดหุ้น ประเทศไทยควรเตรียมวางกลยุทธ์เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติและปรับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ เพื่อเปลี่ยนวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสในการรับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตของบรรษัทข้ามชาติ
ด้านเศรษฐกิจไทย นายอนุสรณ์คาดว่าอัตราการขยายตัวในไตรมาสสุดท้ายปี 67 จะอยู่ที่ 4% โดยมีแรงส่งต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการเร่งใช้จ่ายงบประมาณปี 68 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากสงครามการค้าอาจทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงในครึ่งปีหลัง งบประมาณปี 2568 ที่มีการจัดสรรงบลงทุนสูงสุดถึง 0.91 ล้านล้านบาท จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ภาคการลงทุนฟื้นตัวหากไม่มีปัญหาความไม่เสถียรภาพทางการเมือง
ในด้านสวัสดิการ นายอนุสรณ์เสนอให้เพิ่มสวัสดิการพื้นฐานสำหรับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและคุณภาพชีวิตของประชาชน การลงทุนในสวัสดิการจะช่วยลดภาระทางการคลังและส่งเสริมเศรษฐกิจในระยะยาวโดยมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อบรรเทาภาระหนี้ของครัวเรือนและภาคธุรกิจ
นายอนุสรณ์ยังเน้นถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบสวัสดิการและการลงทุนในเด็กเล็ก ซึ่งสามารถลดปัญหาสังคมและเพิ่มผลตอบแทนทางเศรษฐกิจได้อย่างมาก พร้อมกับย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิรูปรายได้ภาครัฐเพื่อสนับสนุนระบบสวัสดิการที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ