- รัฐบาลไทยตั้งเป้าเพิ่ม GDP เกิน 3% ในปี 2568 โดยเน้นดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น AI, EV และเทคโนโลยีอาหาร
- การลงทุนของภาครัฐคาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่า 7-8 แสนล้านบาท โดยมี 3 กระทรวงหลักคอยสนับสนุน
- รัฐบาลมุ่งปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนและเตรียมสร้างไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รัฐบาลไทยกำลังเตรียมพร้อมเพื่อผลักดันเศรษฐกิจในปี 2568 โดยตั้งเป้าให้ GDP เติบโตเกินกว่า 3% ผ่านการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมอนาคต เช่น ศูนย์ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ AI, ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีอาหารที่ทันสมัย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะลงทุนจากภาครัฐมากกว่า 7-8 แสนล้านบาท โดยมี 3 กระทรวงหลักที่ร่วมสนับสนุนการลงทุน ได้แก่ กระทรวงคมนาคม, กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นอกจากการดึงดูดการลงทุนในห่วงโซ่อุปทานจากบริษัทชั้นนำ เช่น AWS, Google, Microsoft, และ Huawei แล้ว รัฐบาลยังมุ่งเน้นการพัฒนาระบบนิเวศเพื่อทำให้ไทยเป็นฐานการผลิต AI ระดับโลก ควบคู่กับการสร้างความร่วมมือในอุตสาหกรรม Semiconductor โดยการเพิ่มศักยภาพการวิจัยและพัฒนา (R&D) และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลจะปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนให้เกิดขึ้นสะดวก รวดเร็ว และดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น โดยเน้นการแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยและลดขั้นตอนการขอใบอนุญาต นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ย้ำถึงความสำคัญของการปรับปรุงด้านนี้เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การที่ไทยตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นข้อได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และการค้า อีกทั้งรัฐบาลยังคงนโยบายส่งเสริมสันติภาพและความมั่งคั่งร่วมกันซึ่งจะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจในการดึงดูดนักลงทุนและแรงงานทักษะสูงเข้าสู่ประเทศ