- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดการณ์ว่าในปี 2568 การส่งออกของไทยจะเผชิญกับความท้าทายใหม่จากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสงครามการค้ารอบใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้การส่งออกขยายตัวเพียง 2%
- ภาครัฐควรเตรียมตัวเผชิญกับการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ เพื่อบรรเทาความเสี่ยงจากนโยบายภาษีนำเข้า Trump 2.0
- แนวโน้มสงครามการค้าและโครงสร้างสินค้าส่งออกที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก อาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
ในปี 2568 การส่งออกของไทยอาจเผชิญกับความท้าทายจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสงครามการค้ารอบใหม่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดการณ์ว่ามูลค่าส่งออกของไทยจะขยายตัวเพียง 2% ซึ่งลดลงกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2567 โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปีที่มาตรการกีดกันการค้าที่ได้รับผลกระทบจาก Trump 2.0 จะเริ่มมีผลกระทบอย่างชัดเจน
การเจรจาหรือการต่อรองกับสหรัฐฯ นั้นจำเป็นเพื่อป้องกันการเพิ่มภาษีนำเข้า โดยเฉพาะการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยต้องระวังในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่อาจเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง โดย SCB EIC ระบุว่า 70% ของสินค้าส่งออกหลักของไทยมีความเสี่ยงถูกตั้งกำแพงภาษีจากนโยบาย Trump 2.0
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินว่าในปี 2568 การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้เพียง 2.5% เนื่องจากสงครามการค้ารอบใหม่และโครงสร้างสินค้าส่งออกของไทยที่ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการตลาดโลก ในปี 2567 มูลค่าการส่งออกไทยอาจขยายตัวเกิน 4% อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวและการส่งออกทองคำที่สูงขึ้น แต่การเติบโตนี้อาจไม่ยั่งยืนในปีถัดไปหากไม่ได้วางแผนรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่มั่นคง