สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยรายงานแนวโน้มพลังงานในระยะสั้นเมื่อวันที่ 14 มกราคม โดยระบุว่าราคาน้ำมันจะถูกกดดันในปี 2568-2569 เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันทั่วโลกจะมากกว่าความต้องการ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า EIA ปรับคาดการณ์การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 13.55 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ 13.52 ล้านบาร์เรลต่อวัน
EIA คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันเบรนท์จะลดลง 8% สู่ระดับเฉลี่ย 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2568 และจะลดลงสู่ระดับ 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2569 ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) โดยเฉลี่ยในปี 2568 จะอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และจะลดลงสู่ระดับ 62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2569 นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันและเชื้อเพลิงเหลวทั่วโลกถูกคาดการณ์ว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 104.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2568 ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 104.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ตัวเลขเหล่านี้ EIA ได้ประเมินตามมติของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส (OPEC+) ที่จะผ่อนคลายเพดานการผลิต โดยคาดการณ์ว่าผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิต ในขณะเดียวกัน อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 104.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 104.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังต่ำกว่าแนวโน้มก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 อีกด้วย